เริ่มวางแผนการเดินทาง

       เมื่อตัดสินใจได้แล้ว ปัญหาที่ตามมาสำหรับ คนไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองก็คือ "ทุกอย่างเราจะต้องจัดการบริหาร การเดินทางเองทั้งหมดเลย" ฮ่าๆๆๆ สมใจเลยมั้ยล่ะ ToT 
       แต่ก็นั้นแหละ ที่เค้ากันเรียกว่า การผจญภัยกำลังเริ่มต้นขึ้นแล้ว.......................
       
       เรามาเริ่มวางแผนการเดินทางกัน คือ


1. วางแผนว่าจะไปเที่ยวที่ไหนบ้าง ?
ต้องไปศึกษา
ค้นหาข้อมูล แหล่งท่องเที่ยวญี่ปุ่น ในแต่ละที่ โดยดูจากหนังสือนำเที่ยว อินเตอร์เน็ต หรือรายการทัวร์ที่คนนิยมไป หรือตามโบชัวร์ต่างๆ ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาในการรวบรวมมากซะหน่อย และถ้าหากต้องการไปเที่ยวด้วยตัวเองแล้วล่ะก็ แนะนำว่าควรวางแผนสถานที่ท่องเที่ยวไว้ดังนี้ คือ

ประเทศญี่ปุ่นแบ่งเป็น 7 ภาคและ 1 เกาะ ดังนี้
1. ภูมิภาคเหนือ (ฮอกไกโด) เช่น ซัปโปโร ฮะโกะดะเตะ โอะตะรุ อะซะฮิกะวะ ฟุระโนะ  

2. ภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (โทโฮะกุ) เช่น เซนได อะโอะโมะริ อิวะเตะ ยะมะงะตะ 

3. ภูมิภาคตะวันออก (คันโต) เช่น โตเกียว นิกโก้ โยโกฮาม่า โทะจิงิ คะนะงะวะ   

4. ภูมิภาคกลาง (จูบุ) เช่น นาโงย่า ทะกะยะมะ โทะยะมะ นะงะโนะ ชิซุโอะกะ คะนะซะวะ
5. ภูมิภาคตะวันตก (คันไซ) เช่น โอซาก้า เกียวโต โกเบ นารา วะกะยะมะ 

6. ภาคตะวันตก (จูโงะกุ) เช่น ฮิโรชิม่า โอะกะยะมะ ชิมะเนะ ทตโตะริ ยะมะงุจิ

7. เกาะชิโกะกุและหมู่เกาะทะเลใน (เซโตะไนไค) เช่น ทะกะมะทสุ คะงะวะ โทะกุชิมะ เอะฮิเมะ 

8. ภาคใต้ (คิวชู และเกาะโอกินะวะ)

        เราควรจะเลือกเที่ยวโดยแบ่งเป็นภูมิภาค เพื่อสะดวกในการเดินทางไปกลับที่พักของตัวเอง เพราะถ้าเราเลือกไปเที่ยว ตามสถานที่ท่องเที่ยวโดยไม่สนใจภูมิภาคล่ะก็ อย่างเช่น เลือกไปเที่ยวนิกโก้ ต่อด้วยโอซาก้า แล้วกลับมานอนที่โตเกียวอย่างนี้ จะเห็นได้ว่าเป็นการเที่ยวแบบข้ามภูมิภาค ทำให้เสียเวลาไปกับการเดินทางมาก และเที่ยวได้น้อยอีกด้วย

แถบคันโต (โตเกียว)


แถบคันไซ


         สำหรับฉันเลือกไปเที่ยว แถบคันโตก่อน จากนั้นค่อยไปเที่ยวแถบคันไซ แล้วกลับมาโตเกียวอีกที แต่ถ้าหากมีเวลาเหลือก็อยากจะไปแถบคิวชูด้วย... ทั้งนี้เราก็จะสามารถจองที่พักได้ตามภูมิภาค ทำให้ไม่เสียเวลาในการเดินทางไป-กลับที่พัก และยังเที่ยวได้มากขึ้นและทั่วถึงอีกด้วย


2. จะไปญี่ปุ่นทั้งหมดกี่วัน จะเริ่มไปวันไหน กลับมาเมื่อไหร่ ?
ให้ ตั้งวันที่ เดือน ปี ที่จะไปไว้ให้ชัดเจน อาจคลาดเคลื่อนบ้างก็ไม่เป็นไร ก็เพื่อเป็นการย้ำเตือน ให้เราได้เตรียมความพร้อมในเรื่องต่างๆ รวมทั้งเตรียมข้อมูลการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงฤดูนั้น เช่น ในแต่ละฤดูจะมีสถานที่ท่องเที่ยว High Season ที่แตกต่างกันตามสภาพอากาศ จะได้ไปเที่ยวได้ถูกที่ ถูกเวลา และ เลือกเสื้อผ้าให้เหมาะสม กับสถาพอากาศในช่วงนั้นด้วย

        และสำหรับแผนการเดินทางของฉันก็คือ ไปวันที่ 1 เม.ย. ถึงวันที่ 20 เม.ย. 2012 (อาจคาดเคลื่อนบ้าง) เป็นเวลาทั้งหมด 20 วัน
       ในช่วงเดือนเมษาที่เลือกเดินทางไป ประเทศไทยจะเป็นฤดูร้อน แต่ที่ญี่ปุ่นจะเป็นฤดูใบไม้ผลิ นั้นคือ ช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม จะมีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 14.4 องศาเซลเซียส และเป็นช่วงที่มีสถานที่ท่องเที่ยว High Season คือ การไปชมดอกซากุระบาน ซึ่งจะบานแค่ 1 สัปดาห์ ใน 1 ปีเท่านั้นส่วนเสื้อผ้าที่เตรียมไปก็ควรเน้นความอบอุ่นไว้ก่อน 





3. เตรียมสิ่งจะต้องมี คือ
- การคมนาคมเดินทางท่องเที่ยวญี่ปุ่นทั้งหมด เราเลือกเดินทางด้วยใช้รถไฟ เพราะ รถไฟที่ญี่ปุ่นมีเส้นทางเดินรถที่ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ โดยเราต้องซื้อตั๋ว JAPAN RAIL PASS หรือที่เรียกกันว่า JRPass ซะก่อน นอกจากกรณีจะไปเที่ยวเกาะต่างๆ ก็ต้องใช้เรือเดินทางนะจ้า

 

- เรื่องที่พัก เราควรจองที่พักทางอินเตอร์เน็ตซะก่อน เพื่อความสะดวกและปลอดภัยในการเดินทาง เพราะว่า ที่พักที่ญี่ปุ่น ค่อนข้างมีผู้ใช้บริการเต็มตลอดทั้งปี โดยเฉพาะเมืองใหญ่ๆ  ถ้าเลือกที่พักใกล้สถานีรถไฟหรือเส้นทางคมนาคมอื่นๆ ราคาก็จะสูง หรือใกล้แหล่งท่องเที่ยวศูนย์กลางค้า ราคาก็จะยิ่งสูงขึ้นไปอีก ส่วนเรื่องว่าจะพักที่ไหนดี ก็แล้วแต่ความชอบ ความสะดวก และงบประมาณในการเดินทางของเรา
 



4. การตั้งงบประมาณที่ต้องใช้จ่ายทั้งหมด 

 
ขอแนะนำว่าให้  " เผื่อเหลือ ดีกว่าเผื่อขาด "
        สำหรับฉัน ที่ไม่เคยไปญี่ปุ่นสักครั้งเลยในชีวิต จึงต้องมีเรื่องอะไรๆ ให้คิดต่างๆมากมาย โดยเฉพาะเรื่องค่าใช้จ่าย ค่ากิน ค่าที่พัก ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ ค่าเดินทาง และอื่นๆอีกมากมาย (ยังไม่รวมค่าช็อปปิ้ง ของฝาก) และฉันได้วางแผนการเดินทางท่องเที่ยวญี่ปุ่นทั้งหมดเป็นเวลา 20 วัน นั้นมันไม่ใช่เวลาน้อยๆเลย ก็ย่อมเป็นเรื่องที่กะประมาณได้ยาก ว่าจะต้องใช้ค่าใช้จ่ายไปเท่าไร ดังนั้นฉันจึงไปรวบรวมข้อมูลของผู้ที่เคยไปญี่ปุ่นด้วยตัวเองมา ซึ่งค่าใช้จ่ายที่ควรเตรียม คือ ดังนี้

1. ค่าเครื่องบินไปกลับ กรุงเทพ - โตเกียว ช่วงเดือนเมษา เลือกสายการบินที่ต้องการ (ราคาอาจเปลี่ยนแปลงไปจากนี้บ้าง)
    - TG  สำหรับผู้ใหญ่  1 คน ชั้นประหยัด  รวมราคา  29,570 บาท
    - JAL สำหรับผู้ใหญ่  1 คน ชั้นประหยัด  รวมราคา  56,390 บาท
    - UA  สำหรับผู้ใหญ่  1 คน ชั้นประหยัด  รวมราคา  29,455 บาท
    - DU  สำหรับผู้ใหญ่  1 คน ชั้นประหยัด  รวมราคา  30,570 บาท
เช็คอัพเดตราคาตั๋วได้ที่  http://krisnatravel.galileodirect.com/appropriateFlight1.aspx


       เลือกสายการบินที่เป็น สายการบินตรง กรุงเทพ - โตเกียวเลยจะดีกว่า ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชม. และควรเลือก Flight ที่ออกดึกถึงเช้า เพื่อจะได้รู้สึกสดชื่น พร้อมรับกับการเริ่มต้นของเช้าวันใหม่ที่ญี่ปุ่น 
       และราคาค่าเครื่องบินในช่วงเมษานี้ จะมีราคาค่อนข้างแพงกว่าปกติมาก เพราะเป็นช่วง High Season ของญี่ปุ่น คือ ดอกซากุระบาน ซึ่งมีนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก เดินทางกันมาอย่างหนาแน่นเพื่อมาเยี่ยมชม เทศกาลฮานามิ และก็เป็นช่วงปิดเทอมฤดูร้อน และช่วงหยุดยาวสงกรานต์ของไทยอีกด้วย
 
2. ค่าตั๋ว Japan Rail Pass หรือค่าตั๋วรถไฟ JR เพราะเราต้องใช้รถไฟเดินทางเป็นพาหนะตลอดการเดินทาง 20 วัน ซึ่งถ้าหากเราไม่ซื้อเจ้าสิ่งนี้แล้ว เลือกไปซื้อตั๋วตามสถานีรถไฟต่างๆเอาล่ะก็ รวมๆมูลค่าที่เราจ่ายไปนั้นอาจมากกว่าราคาค่าตั๋ว  JAPAN RAIL PASS อีกหลายเท่า
      ซึ่งเจ้าตั๋วนี้ไม่ธรรมดา นอกจากจะสามารถขึ้นได้ทุกขบวนของรถไฟ JR และครอบคลุมทุกเส้นทางทั่วประเทศแล้ว และยังมีสิทธิพิเศษ สามารถนั่งรถไฟด่วนพิเศษชินกังเซนได้ด้วยนะ ไม่ช่ายนั่งได้แค่รถไฟอย่างเดียว รถบัสและเรือของ JR ก็นั่งได้อีกด้วย (จะตกรถเรือกี่รอบก็ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม)
      ส่วนราคาแบ่งเป็น 2 แบบ คือแบบธรรมดา Ordinary กับแบบ Green ซึ่งจะมีราคาสูงกว่าเพราะเป็นรถไฟชั้น 1 และแบ่งเป็นราคาเด็กและผู้ใหญ่ จำนวนวันที่เราจะใช้ตั๋ว ซึ่งเขาจะกำหนดมาให้เราแล้ว ก็เลือกตามความสะดวกและความเหมาะสมของเรา ส่วนราคาจะเป็นกี่บาท ก็ตามอัตราแลกเปลี่ยนค่าเยน/บาท ของช่วงที่เราซื้อนั้นๆ


3. ค่าอาหาร  เลือกได้ตามความสะดวก ตามใจชอบ และงบประมาณที่มี
 - ถ้าเป็นอาหารตามร้านสะดวกซื้อ เริ่มต้นที่ 200 เยนสำหรับข้าวปั้น ไปจนถึงเกือบ 1,000 เยนสำหรับเบนโตะ (ข้าวกล่อง)
 - ถ้าเป็นราคาอาหารแบบจานเดียว เช่น พวกข้าวหน้าต่างๆ ราเมง โดยทั่วไป 400-700 เยน แล้วแต่ว่าจะยืนกิน หรือ 

นั่งกิน
 - ถ้าเป็นอาหารชุด แบบมีกับข้าว 1-2 อย่าง เช่น ข้าว น้ำซุป ผักดองก็ 700-1,500 เยน แล้วแต่ความหรูหน้าตาของ

กับข้าว
 - ขนมอร่อย ๆ เริ่มต้นที่ประมาณ 200 เยนต่อชิ้น ไปจนถึง หลัก
1,000 เยน สำหรับเค็กไฮโซอลังการ
 - น้ำเปล่า ขวดละ 100 กว่าเยนนิด ๆ ถ้าเป็นชาเชียว น้ำอัดลม น้ำผลไม้ ก็ราว ๆ 120-150 เยน
- ถ้าเป็นกาแฟแบบกระป๋อง ก็ไม่แพง 100 กว่าเยน แต่ถ้าซื้อแบบกาแฟมียี่ห้อ บรรจุภัณฑ์สวย ๆ ก็ 2-300 เยน
       ดังนั้นเฉลี่ยมื้อละประมาณ 1,000 เยน วันนึงค่าอาหารแบบกลาง ๆ ไม่อด ไม่หรู ก็ราว ๆ 3,000 เยนต่อวัน 

เผื่อ ๆ ไว้ซื้อขนมของกินเล่นระหว่างทางด้วยนะ (ขอบคุณข้อมูลจากคุณ NumAromDee) 

4. ค่าที่พัก (ราคา 1 คน/คืน)
 - ราคาถูกๆ แนว Guest-house หรือ Hostel ที่ไม่มีห้องน้ำในตัว ประมาณ 2,000-3,500 เยน
 - ราคาค่อนข้างถูก แนว Captual Hotel นอนเดี่ยวในห้องแคบ ๆ หรือ นอนในซอง ประมาณ 3,000-4000 เยน
 - ราคาปานกลาง แนว Business Hotel ตามหน้าสถานีรถไฟ มีห้องน้ำในตัว ประมาณ 5,000-7,000 เยน
 - ราคาปานกลาง แนว Ryokan ที่พักแบบญี่ปุ่น ราคาขึ้นอยู่กับว่ามีห้องน้ำในตัวรึเปล่า ประมาณ 6,000-10,000 เยน
 - ราคาแพงก็พวกโรงแรม 4-5 ดาวชื่อดัง ๆ ทั้งหลาย ราคา 10,000 เยน ขึ้นไป แล้วแต่ความหรู และ ทำเล  

(ขอบคุณข้อมูลจาก NumAromDee) 
 
5.ค่าเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ
 - วัด ศาลเจ้า ดังๆ ต้องมีการจ่ายค่าบำรุงวัดก่อนเข้าสักก่อน โดยทั่วไปประมาณ 300-500 เยน
 - พิพิธภัณฑ์ สวนดอกไม้ ประมาณ 500-800 เยน ยกเว้นพวกมิวเซี่ยมของเอกชน หรือ หอศิลป์ อาจแพงขึ้นไปถึงหลักพัน ตามความหรู และคุณค่าของงานที่จัดแสดงอยู่ข้างใน
 - พวก Theme Park หรือ สวนสนุกทั้งหลาย เตรียมไว้เลย หลักพันขึ้นไปแน่นอน ประมาณ 2,000-5,000 เยน ซึ่งส่วนมากจะเป็นราคาเหมาจ่ายแล้ว เล่นได้ทุกอย่าง
(ขอบคุณข้อมูลจาก NumAromDee)


      สรุปค่าใช้จ่าย ค่ากินเที่ยวอยู่แบบกลางๆพอดีๆ อยู่สบายๆ ไม่อดไม่อยาก ไม่ลำบากมากนัก ก็เฉลี่ยตกวันละประมาณ 10,000 เยน (ยังไม่รวมค่า Shopping ซื้อของฝาก อันนี้แล้วแต่งบประมาณที่เหลือของเรา)  

    
      สุดท้ายแล้วไม่ว่าเราจะกินหรืออยู่ ในระดับไหนราคาเท่าไรก็ตาม แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด ก็คือ การที่เราได้กินหรือได้อยู่ในที่ตรงนั้น ก็มีประสบการณ์เล็กๆน้อยๆเกิดขึ้นแล้ว อาจมีทั้งความสนุกสนาน ประทับใจหรือไม่ประทับใจ แต่นั้นก็คือ สิ่งที่เราพร้อมที่จะเรียนรู้มัน เพราะประสบการณ์มันไม่ได้มีอยู่ในเฉพาะสิ่งที่มีราคาสูงเสมอไป 
   


4 ความคิดเห็น:

eMike กล่าวว่า...

โอ้ยากไปเกาหลี โอ้ผิดๆๆ ญี่ปุ่นครับ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ค่ะ งั้นเรามาเริ่มไปญี่ปุ่นด้วยกันนะค่ะ ทุกคน

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ช่วยเก็ยดอกซากุระมาฝากด้วย อยากไปเหมือนกันกลัว...............หนาวตายก่อนกลับ

Unknown กล่าวว่า...

อยากขอคำแนะนำค่ะไม่ทราบว่าจะพอพูดคุยขอคำปรึกษาได้ทางไหนบ้างคั